เรื่องโดย : Mickey Blue
ภาพโดย : Glasses Offapp
‘สูตรอมตะ’ ซิงเกิลใหม่ล่าสุดจาก The Bandit Boy ที่ออกมาให้แฟนๆ ได้สัมผัสผลงานจากฝีมือของพวกเขากันอีกครั้ง หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนานกว่า 2 ปี กับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นกับวง ไม่ว่าจะเป็นการได้สมาชิกใหม่เข้ามาร่วมทีม หรือการร่วมงานกับ อู๋ The Yers ที่รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ในเพลงนี้
“เพลง ‘สูตรอมตะ’ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคนที่คิดว่าตัวเองเก่ง มั่นใจว่าทำอะไรก็ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด ไม่เคยแพ้อะไรเลย จนกระทั่งวันหนึ่งเขาไปตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง พยายามทำทุกวิถีทางโดยที่เชื่อมั่นว่าเขาจะเอาชนะใจเธอได้ แต่สุดท้ายแล้วผู้หญิงคนนั้นก็ไปชอบคนอื่น กลายเป็นว่าเขาไม่สามารถเอาชนะใจเธอได้ เหมือนกับเวลาที่เราเล่นเกม เรามั่นใจว่ามีสูตรอมตะที่สามารถเอาชนะได้ทุกด่าน เล่นยังไงก็ไม่มีวันตาย แต่สุดท้ายแล้วเราก็ตายอยู่ดี”
เอเชีย – พชร พุทธาภิสิทธิกุล นักร้องนำและสมาชิกใหม่ของวง บอกเล่าถึงเพลงใหม่ล่าสุดของ The Bandit Boy ให้เราฟัง“เพลง ‘สูตรอมตะ’ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคนที่คิดว่าตัวเองเก่ง มั่นใจว่าทำอะไรก็ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด ไม่เคยแพ้อะไรเลย จนกระทั่งวันหนึ่งเขาไปตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง พยายามทำทุกวิถีทางโดยที่เชื่อมั่นว่าเขาจะเอาชนะใจเธอได้ แต่สุดท้ายแล้วผู้หญิงคนนั้นก็ไปชอบคนอื่น กลายเป็นว่าเขาไม่สามารถเอาชนะใจเธอได้ เหมือนกับเวลาที่เราเล่นเกม เรามั่นใจว่ามีสูตรอมตะที่สามารถเอาชนะได้ทุกด่าน เล่นยังไงก็ไม่มีวันตาย แต่สุดท้ายแล้วเราก็ตายอยู่ดี” เอเชีย – พชร พุทธาภิสิทธิกุล นักร้องนำและสมาชิกใหม่ของวง บอกเล่าถึงเพลงใหม่ล่าสุดของ The Bandit Boy ให้เราฟัง
หลังจากมีผลงานชุดแรกที่ใช้ชื่อเดียวกับชื่อวง และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในอัลบั้มรวมเพลง ‘นกกระจอก’ กับ 2 บทเพลงอย่าง ‘พ่น’ และ ‘สิ่งที่ต้องผ่าน’ The Bandit Boy ก็ไม่มีผลงานออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังกันอีกเลย
ซึ่งสมาชิกที่เหลือในวง ไม่ว่าเป็น โจ้ – นภกร บรรณวัฒน์ (กลอง), แฮม – วรปรัชญ์ สมพงษ์ (กีตาร์) และ ไฝ – ธรภัทร วิริยะพงษ์ (เบส) ต่างก็บอกว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ความตั้งใจของพวกเขาเลย แต่ด้วย ‘ความเปลี่ยนแปลง’ ที่เกิดขึ้นกับวง ทำให้แฟนๆ ได้ฟังผลงานของพวกเขาในปีนี้แทน
“หลังจากงานชุดแรก เราก็ทำเพลงกันมาตลอด มีเพลงใหม่ที่ทำเอาไว้อยู่จำนวนหนึ่งแล้ว แต่ว่าพอนักร้องนำคนเก่าออกจากวงไป แล้วเราได้เอเชียเข้ามา เราก็เลยต้องเอาเพลงต่างๆ ที่มีอยู่มาปรับให้เหมาะกับเอเชีย ก็เลยต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นจากเดิมที่วางแผนกันไว้ อีกอย่างหนึ่งพวกเราก็เจอผลกระทบจากเรื่องโควิด-19 ด้วย จากที่คิดว่าจะมีซิงเกิลให้ฟังกันตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วก็เลยเลื่อนมาเป็นปีนี้” ไฝพูดถึงสาเหตุที่ทางวงหายหน้าหายตาไปร่วม 2 ปี
วงกล่าวต่อไปว่า พวกเขาตัดสินใจชักชวน เอเชีย ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่วิทยาลัยดุริยศิลป์ มหาวิทยาลัยพายัพเข้ามาร่วมวง เนื่องจากคุ้นเคยจากการเล่นดนตรีกลางคืนร่วมกันมาก่อนแล้ว
“หลักๆ เลยก็คือมองหาคนที่ใกล้ตัวก่อน กับเอเชียเราเคยทำงานร่วมกันมาแล้ว คิดว่าน่าจะอยู่ด้วยกันได้ ก็เลยชวนมาร่วมวง” ขณะที่ฝ่ายสมาชิกใหม่ของวงกล่าวว่า “ผมเองก็รู้จักพวกพี่ๆ อยู่แล้ว ฟังเพลงของพวกเขาด้วย แล้วพอได้เข้ามาอยู่ในวง ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันฝืนอะไร เราสบายใจ รู้สึกดีที่จะได้ร้องเพลงของพี่ๆ เขา”
นอกจากการได้เอเชียเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ อีกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ The Bandit Boy ก็คือการที่พวกเขาตัดสินใจว่าในซิงเกิลใหม่ รวมถึงเพลงอื่นๆ ที่จะทยอยปล่อยออกมาให้ฟังกันต่อจากนี้ จะทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์ที่เป็นคนภายนอกวง ไม่ใช่การโปรดิวซ์กันเองเหมือนในอัลบั้มชุดแรก และคนที่พวกเขาเลือกให้ทำหน้าที่ดังกล่าว ก็คือ อู๋ The Yers (ยศทร บุญญธนาภิวัฒน์) ที่ไฝอธิบายเหตุผลในการทำงานร่วมกันว่า “ส่วนหนึ่งก็เพราะรู้จักกันอยู่แล้ว อีกอย่างคือเรามีเป้าหมายว่าอยากจะให้งานของเราก้าวไปอีกระดับ แล้วเราก็ไม่มั่นใจว่าการทำกันเองจะช่วยให้งานของเราไปถึงเป้าหมายได้ ก็เลยให้อู๋มาช่วยโปรดิวซ์งานให้ เพราะมั่นใจว่าเขาจะช่วยเราได้”
วงยอมรับว่าการทำงานกับอู๋ช่วยให้เพลงของพวกเขาเติบโตขึ้น เพราะอู๋จะมีความคิดเห็นหรือคำแนะนำต่างๆ ที่ช่วยให้พวกเขามองเห็นจุดที่ยังบกพร่องหรือสามารถพัฒนาได้อีกในผลงานของตัวเองอยู่ “บางครั้งเราก็คิดกันว่าแบบนี้ใช้ได้แล้ว คิดว่าที่ทำมาโอเคแล้ว แต่พอเอาให้อู๋ฟัง เขาก็จะมีมุมมองของคนที่มองจากข้างนอกเข้ามา ว่าเพลงมันควรจะเพิ่มหรือปรับตรงไหน อะไรที่ยังไม่ใช่ หรือเรื่องเนื้อเพลง สิ่งที่เราจะนำเสนอ ต้องทำยังให้มันชัดเจนขึ้น”
แน่นอนว่าจากระยะเวลาที่ The Bandit Boy หายหน้าไป ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับวง รวมถึงการที่พวกเขาตั้งใจที่จะทำให้ ‘สูตรอมตะ’ และเพลงอื่นๆ ที่จะตามมานั้นเข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าในงานชุดแรก สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จึงได้แก่ความคิดเห็นของแฟนๆ ที่กลัวว่าทางวงอาจจะไม่เหมือนเดิม ซึ่งไฝก็ยืนยันว่า แม้จะมีบางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป แต่แนวทางของวงนั้นยังคงชัดเจนไม่เปลี่ยนแปลง
“เราก็คิดว่าแนวทางของเรายังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน ในงานชุดแรก เราใส่ทุกอย่างที่อยากใส่ลงไป จนเราเองรู้สึกว่ามันรกไป ซับซ้อนมากไป กับการทำงานในคราวนี้ก็เลยอยากให้เพลงมันเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งหมดก็ยังเป็นร็อคในแบบของเราเหมือนเดิม หวังว่า ‘สูตรอมตะ’ และเพลงอื่นๆ ที่จะตามมา ฟังแล้วจะรู้สึกว่ามันเป็นงานที่ดีครับ”
—The Bandit Boy