“จีบหมา (Flirt The Dog)” ที่เปิดเพลงมาด้วยดนตรีที่มีความเรียบง่ายทำนอง  และเนื้อร้องติดหู ชวนร้องตาม ที่มีเนื้อหาเล่าถึงตัวแทนของคนที่มักจะแพ้ในเรื่องของความรักเรื่อยไป แล้วคอยตั้งคำถามกับเรื่องของความรัก จนต้องมานั่งบ่นกับตัวเองอย่างตัดพ้อว่า “สงสัยชีวิตนี้คงต้องไปจีบหมาละมั้ง” จากวง The Bandit Boy วงดนตรี pop rock ที่ประกอบไปด้วย เอเชีย – พชร พุทธาภิสิทธิกุล (ร้องนํา) ,โจ้ – นภกร บรรณวัฒน์ (กลอง) ,ไฝ – ธนภัทร วิริยะพงษ์ (เบส) ,แฮม – วรปรัชญ์ สมพงษ์ (กีต้าร์)

ทางวงบอกกับเราว่า ‘ จีบหมา ’ จริงๆ แล้วเป็นเพลงแรกสุดเลยที่สมากชิกคนอื่นๆ ในวงทำกันมาก่อนประมาณเมื่อ 2 – 3 ปีที่แล้ว ก่อนที่เอเชียจะเข้ามาเป็นนักร้องนำ เป็นเพลงที่เสร็จก่อนเพลงอื่นๆ เลย
“จริงๆแล้ว จีบหมาเป็นเพลงแรกที่ทำเสร็จก่อนเพลงอื่นๆ เลย ก่อนเพลงสูตรอมตะอีก แต่เพลงสูตรอมตะถูกปล่อยไปก่อนเลยจะดูเหมือนว่าจีบหมาเป็นเพลงใหม่ แต่เพลงที่ใหม่กว่าก็คือสูตรอมตะ (หัวเราะ)” – เอเชีย


หลังจากที่วงได้ปล่อยเพลง ‘จีบหมา’ ออกมานั้นเรา (ผู้เขียน) ติดใจท่อนหนึ่งของเนื้อเพลงที่ร้องว่า ‘ไปจีบหมา ไปจีบหนู ไปดูสัตว์น้ำ’ จึงได้ถามที่มาของชื่อเพลง และท่อนเนื้อร้องดังกล่าว ไฝก็เป็นคนตอบที่มาของเพลงว่า เนื้อเพลงเขียนตอนที่ได้ไปบ้านพี่อู๋ เป็นหลังจากที่ทำเมโลดี้เสร็จแล้ว แต่ตอนแรกเนื้อเพลงมันจะเล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไฝเองก็บอกกับเราว่าจำไม่ได้แล้วว่ามันเป็นเนื้อหาอะไร (หัวเราะ) ไฝก็เลยนั่งเขียนเนื้อเพลงใหม่ แต่พอเขียนไปเขียนมาก็เขียนไม่ได้ แล้วอยู่ๆ พี่อู๋ The Yers ก็พุ่งท่อนนี้ขึ้นมาว่า ‘ไปจีบหมา ไปจีบหนู ไปดูสัตว์น้ำ’




“เราก็รู้สึกว่าเออมันฟังดูสนุกดี เลยเอาต่อยอดกันดูว่าทำไมมันถึงต้องไปจีบหมา ไปจีบหนู ไปดูสัตว์น้ำวะ ก็เพราะไม่มีใครเอา ไม่รู้จะไปจีบใคร ก็เลยประชดว่าจะไปจีบหมาไปจีบหนูไปดูสัตว์น้ำ มันก็ได้เนื้อของคีย์มา แล้วเราก็เอาไปต่อเป็น ไปขี่ม้า ไปจีบควาย ให้มันรู้ไป แล้วเราก็มาขยี้เนื้อเพลง เริ่มเขียนตั้งแต่เวิร์สใหม่อีกรอบนึง ก็คือเอาคีย์ตรงนั้นเป็นคอนเซ็ปท์หลักเลย แล้วเราก็วางแผนไว้เลยว่าต่อไป The Bandit Boy จะเขียนเนื้อเพลงให้ดูมีความกวนอยู่ข้างใน มีความเกินจริง

ปล่อยให้มันหลั่งไหลไปตามจินตนาการของเรา หลังๆ มาเนื้อเพลงก็เลยจะมีความเลอะเทอะ (หัวเราะ) เต็มไปด้วยจินตนาการมากขึ้น มันจะไม่ใช่แบบคำเท่ ๆ เหมือนอัลบั้มแรก ๆ ยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆ อย่างสูตรอมตะ ก็จะเป็นแบบ โดนมีดแทง สิบแผลก็ไหว โดนปืนยิงสิบนัดก็ไม่ตาย หรืออย่างในเสียเวลาย้อนเวลาก็จะมีท่อนอย่าง ให้ฉันนั่งไทม์แมชชีนไปกี่ครั้ง” – ไฝ

เรื่องที่ยากในการทำเพลงนี้คืออะไร? เป็นคำถามที่เราถามกับทางวง หลังจากที่พอสัมผัสได้ว่าการทำงานของวงมีทิศทางที่ค่อนข้างจะไปได้ด้วยดี เอเชียก็บอกกับเราว่าความยากของเพลงนี้สำหรับเอเชียคือเพลงนี้เป็นเพลงแรกเลยที่ได้ร้อง หลังจากเข้ามาเป็นสมาชิกในวงได้ไม่นาน แต่ว่าวันนั้นต้องอัดพร้อมกันสองเพลงเลย คือเพลงจีบหมา กับเพลงสูตรอมตะ

“ผมร้องเพลงสูตรอมตะเข้าปากกว่าเพลงจีบหมา เพราะผมไม่ได้อยู่ในกระบวนการทำเพลงตั้งแต่แรก เเต่ผมต้องร้องจีบหมาให้เหมือนสูตรอมตะให้ได้” – เอเชีย

ก่อนที่วงจะเล่าว่าอันที่จริงแล้วเพลงจีบหมาอัดเสร็จไปตั้งแต่วันแรก แล้วพอมาถึงวันที่สองก็มาอัดสูตรอมตะกันต่อซึ่งใช้วิธีร้องเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่พอหลังจากอัดสูตรอมตะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนในวงมีความเห็นตรงกันว่าเอเชียต้องร้องแบบเพลงสูตรอมตะนี่แหละ เลยต้องมานั่งรื้อเพลงใหม่ อัดเพลงจีบหมาใหม่กันหมด แฮมบอกพร้อมด้วยเสียงหัวเราะว่าความยากหลังจากที่มารื้อเพลงอีกรอบคือต้องเล่นให้น้อยลง แต่ให้มันมากขึ้น เพราะความยากเพลงนี้มันคือตอนคิดเมโลดี้ แล้วก็ดีไซน์เพลง ที่ทีแรกทางวงรู้สึกว่าทำเมโลดี้แรกมาไม่ค่อยพอใจเลย แต่ว่าในส่วนของซาวด์ดีไซน์ทางวงสนุกกับมันมาก ให้ความรู้สึกเหมือนได้วิ่งเล่น ซึ่งไฝบอกว่ามันเยอะมากๆ เยอะกว่าเครื่องดนตรีของทุกคน มันเหมือนทุกคนได้ช่วยกันออกไอเดีย จับเสียงนี้มาวางเลเยอร์นี้ จับเสียงนี้มาวางตรงนี้ เลเยอร์นี้กี่ชั้น ตรงนี้มีลูกเล่นของเสียงสังเคราะห์อะไรยังไงบ้าง

“ส่วนหนึ่งก็คือเราไม่อยากให้ซาวด์มันเป็นแบบ วงร็อกก้าวร้าวที่เขาจะใช้ซาวด์ EDM ซาวด์ Trap ตามยุคสมัยอะไรอย่างนี้ มันก็เลยจะต้องมานั่งเหนื่อยกับการทำงานกับซินธิไซเซอร์เยอะหน่อย แต่ก็สนุก สนุกกว่าตอนนั่งเขียนเนื้ออีก (หัวเราะ)” – ไฝ

โจ้บอกกับเราว่าในการทำเพลงหลังจากการปรับเปลี่ยนทิศทางดนตรีก็ไม่ได้มีแค่เรื่องยาก แต่ก็มีเรื่องสนุก ๆ อยู่เพราะถ้าเป็นการเล่นเพลงแบบเก่า สมาชิกในวงจะเล่นยากกว่าเพราะจะต้องมาพะวงลูกเล่นต่างๆ ที่ใส่เข้ามาต่างจากดนตรีแบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นสดมากขึ้นเฉพาะ ทำให้เล่นได้ง่ายกว่า

“เพราะถ้าเป็นอันเก่าเนี่ย พี่จะนับในใจ นับทั้งเพลง (หัวเราะ) อันนี้มันโฟล์ว เล่นง่ายกว่า” – โจ้

“เวลาเราเล่นก็กระโดดได้ง่ายกว่า (หัวเราะ)” – แฮม

ส่วนทิศทางขั้นต่อไปของวง ไฝก็เผยว่าตอนนี้พวกเขาสนุกกับการทำเพลงป๊อปไปแล้ว ต่อไปก็ยังจะทำเพลงป๊อปไปเรื่อยๆ พร้อมกับโจ้ที่ให้คำนิยามว่าเป็น ‘เพลงฮิตที่ตีหัว’ ประมาณว่าเป็นเพลงป๊อป ที่ยังมีตัวตนพวกเขาใส่เข้าไปด้วย

“เราจะยังทำเพลงที่คนอื่นก็ชอบ แล้วเราก็ชอบด้วย ไม่ได้จะเอาใจคนฟังอย่างเดียว เพราะตั้งใจที่จะทำให้ทั้งเราเเละคนฟังชื่นชอบไปด้วยกัน”
– The Bandit Boy –